หมอนหลักร้อยกับหลักพัน…ต่างกันอย่างไร ?
หมอนหลักร้อย กับหลักพัน…ต่างกันอย่างไร ?
เวลาเลือกหมอน หลายคนอาจตั้งคำถามในใจว่า "หมอนใบละหลักร้อยกับหลักพัน ต่างกันที่ตรงไหน?" ทั้งที่มองจากภายนอกก็ดูคล้ายกัน ใช้งานก็เหมือนกัน ความจริงแล้ว สิ่งที่คุณ "มองไม่เห็น" นี่แหละ ที่เป็นจุดต่างสำคัญ
ปัจจัยที่ทำให้หมอนหนึ่งใบ “ราคาต่างกัน” หลายเท่าตัว
1.วัสดุที่ใช้ภายใน
หมอนราคาหลักร้อยส่วนใหญ่ มักใช้เส้นใยสังเคราะห์เกรดทั่วไป ซึ่งอาจนุ่มในช่วงแรก แต่ยุบง่าย เสียรูปเร็วขณะที่หมอนราคาสูงขึ้น มักใช้เส้นใยพัฒนาเฉพาะ เช่น ไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูง หรือ เส้นใยที่จำลองฟีลลิ่งแบบขนห่าน ที่คืนตัวดี รองรับศีรษะได้จริงตลอดคืน
2.กระบวนการผลิตและเทคโนโลยี
หมอนที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องของ “ใส่อะไรข้างใน” แต่รวมถึงวิธีการผลิต
เช่น การกระจายเส้นใยให้สมดุลในทุกจุด, การเย็บขอบที่ไม่กดผิว หรือผ้าหุ้มที่ระบายอากาศได้ดี
สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เทคโนโลยีและเวลาในการผลิตมากกว่าแบบทั่วไป
3.มาตรฐานการใช้งานระยะยาว
หมอนราคาถูกหลายใบ อาจใช้งานได้ไม่เกิน 6 เดือนแต่หมอนที่ใช้วัสดุคุณภาพดีและผลิตได้มาตรฐาน สามารถอยู่กับคุณได้ 2–3 ปีขึ้นไป โดยยังคงรูป
4.กลยุทธ์ทางการตลาดของแต่ละแบรนด์
บางแบรนด์มีต้นทุนการตลาดสูง ใช้ชื่อเสียงในการตั้งราคา
SUNNE เลือกเน้นคุณภาพและความคุ้มค่า ให้ลูกค้าเข้าถึงหมอนคุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ภายใต้ประสบการณ์มากกว่า 10 ปีของ บริษัท ดีลักซ์ โฮเทล ซัพพลาย จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเครื่องนอนมาตรฐานโรงแรม
SUNNE Hotelier™
ใช้เส้นใย MicroArtron™ บรรจุเส้นใย 1200g สำหรับผู้ที่นอนหงาย ให้สัมผัสนุ่ม ฟู ไม่ยวบ รองรับสรีระการนอนได้
SUNNE GooseHeaven™
ใช้เส้นใย MicroDownTouch™ บรรจุเส้นใย 1500g สำหรับผู้ที่นอนหงาย และนอนตะแคง ออกแบบมาให้ฟีลนุ่ม แน่น ให้สัมผัสเหมือนขนห่านธรรมชาติ
เพราะเราเชื่อว่า การนอนหลับที่ดีควรเป็นมาตรฐานพื้นฐาน ไม่ใช่สิ่งพิเศษเฉพาะในรีสอร์ทหรือห้องตัวอย่าง และนั่นคือที่มาของคำว่า SUNNE The New Hotel Standard มาตรฐานใหม่ของเครื่องนอนที่ไม่จำกัดอยู่แค่ในโรงแรม…แต่อยู่ในทุกห้องที่คุณเรียกว่าบ้าน
The New Hotel Standard มาตรฐานใหม่ของเครื่องนอนที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ที่ไม่เพียงแค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด ในทุกค่ำคืนที่พักผ่อน สัมผัส การนอนระดับโรงแรม 5 ดาว ที่ทุกคนเข้าถึงได้